Ads 468x60px

วันพุธที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2555

เล็งเปิด 192 เลขหมายฉุกเฉินแห่งชาติ โทรฟรี! ตังค์หมด-ไร้ซิมการ์ด

ไอซีที ผนึก กสทช. เล็งเปิดเลขหมายฉุกเฉินแห่งชาติ อิงโมเดล 911 สหรัฐฯ หวังเข้าถึงผู้บริโภค โทรฟรีแม้เงินหมด หรือไม่มีซิมการ์ดในมือถือ
นพ.ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. กล่าวว่า กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือไอซีที ขอหมายเลขพิเศษมายัง กสทช. คือ 192 สำหรับการจัดทำหมายเลขฉุกเฉินแห่งชาติ เช่นเดียวกับหมายเลข 911 ของประเทศสหรัฐฯ ทั้งนี้ สาเหตุที่ต้องเป็นเลขหมาย 3 ตัว เพื่อให้จำง่าย เพราะที่ผ่านมาประเทศไทยไม่เคยมีเลขหมายพิเศษลักษณะนี้มาก่อน แต่อาจเปลี่ยนแปลงได้หากเห็นว่ามีเลขหมายอื่นที่ดีกว่า โดย กสทช. พร้อมที่จะจัดสรรเลขหมายให้อยู่แล้ว
ตอนนี้ยกตัวอย่าง 192 แต่ถ้าถามส่วนตัว อยากให้มีเลขหมายลักษณะที่ง่ายต่อการจำ เช่น 123 แต่เลขหมายนั้นใช้ไปแล้ว จึงต้องคิดใหม่ว่าจะใช้เลขหมายอะไรดี ให้จำง่ายนพ.ประวิทย์ กล่าว
สำหรับการดำเนินการจัดทำหมายเลขฉุกเฉินครั้งนี้ หน่วยงานหลักที่รับผิดชอบ คือ กระทรวงไอซีที โดยต้องทำหน้าที่ประสานกับหน่วยงานฉุกเฉินต่างๆ เช่น โรงพยาบาล สถานีตำรวจ สถานีดับเพลิง เป็นต้น รวมถึงผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทุกรายให้ตั้งเลขหมายดังกล่าวเป็นเลขหมายฉุกเฉิน และสามารถโทรออกได้แม้ว่าจะไม่มีเงิน หรือไม่มีซิมการ์ด เพราะเป็นเบอร์ หรือกรณีพิเศษ
กรรมการ กสทช. กล่าวต่อว่า  กสทช.จะบรรจุเงื่อนไขนี้ในใบอนุญาตให้บริการ หรือไลเซนส์ เมื่อเลขหมายนี้ถูกประกาศใช้ และสามารถใช้งบประมาณกองทุนบริการโทรคมนาคมทั่วถึง หรือยูเอสโอ ของ กสทช. เพื่อดำเนินการจัดตั้งเลขหมายฉุกเฉินนี้ด้วย เพราะถือเป็นส่วนหนึ่งของบริการที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนทั่วประเทศ
น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงไอซีที กล่าวว่า สิ่งที่ไอซีทีให้ความสำคัญในการเปิดเลขหมายฉุกเฉิน คือ ต้องให้บริการได้จริงและมีคุณภาพ หมายความว่าต้องโทรติดทันที และสามารถไปยังจุดเกิดเหตุได้เร็ว ซึ่งจะนำปัญหาที่เคยเกิดขึ้นจากบริการที่ผ่านมา เช่น หมายเลข 1111 คอลเซ็นเตอร์ภาครัฐ ที่ได้รับการร้องเรียนว่าโทรติดยากในช่วงอุทกภัยใหญ่ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม โครงการดังกล่าวเป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องประสานงานรอบด้าน จึงต้องใช้เวลาในการดำเนินการอีก เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่เกิดปัญหาเมื่อเปิดให้บริการจริง

1 ความคิดเห็น: